จากการโหมกระหน่ำของข้อมูลข่าวสารอันมหาศาลในยุคปัจจุบันนี้ที่เรียกว่า IOKO(Information Overload Knowledge Overflow) ได้ส่งผลต่อการทำงานในหลายส่วนของสมอง และจิตใจของลูกเรา โดยเฉพาะในช่วงเข้าสู่วัยรุ่นที่สมองส่วนที่ตอบสนองต่อการได้รางวัล(Reward system) มีความไวเป็นพิเศษ(Sensitive) และสมองส่วนนี้จะมีการหลั่งสารสื่อสมองที่เรียกว่า โดปามีน(Dopamine) เมื่อรู้สึกมีความสุข เคลิบเคลิ้มไปกับการได้รับการยอมรับ(จากยอด Like ที่สูง) ส่งผลให้วัยรุ่นในยุคนี้ มีสมาธิที่สั้น(Short attention span) และมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะซึมเศร้า(Depression) ได้ง่าย 
ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สมาธิที่สั้นลง เพราะมัวแต่มองหาสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอารมณ์สุข เช่น รูปของตัวเองที่มียอดไลค์ที่สูง รวมไปถึง การที่สมองของเด็กยุคใหม่ถูกฝึกให้ตัดสินใจเร็วที่จะ “รีบเชื่อ” “รีบแชร์” และ “คอมเมนต์” ในเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นมาในแต่ละวัน เพราะไม่ต้องการที่จะตกกระแส(FOMO – Fear Of Missing Out) และการต้องการได้รับการยอมรับจากสังคม(Conformity) ล้วนส่งผลเสียต่อการทำงานของสมองของเด็กโดยไม่รู้ตัว
เนื่องจากการรีบตัดสินใจ “เชื่อ แชร์ และคอมเมนต์” นั้น ทำให้มีแต่การสร้างวงจรสมองส่วนเร็ว(Fast system)* ที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ และความเชื่อเป็นหลัก ในขณะที่สมองส่วนตรรกะ และเหตุผล ที่ทำงานได้ช้า แต่ทรงประสิทธิภาพมากกว่า(Slow System) ไม่มีโอกาสได้ทำงานเท่าไหร่นัก ซึ่งหลักการของสมองที่ได้รับการพิสูจน์แล้วก็คือ ยิ่งใช้สมองส่วนไหน สมองส่วนนั้นก็จะมีการเชื่อมโยงใหม่ๆเกิดขึ้นตลอด ทำให้สมองส่วนนั้นทำงานได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น จนถึงขั้นทำงานได้อย่างอัตโนมัติ(Autopilot) ในขณะที่สมองที่ไม่ค่อยได้ถูกใช้ ก็จะมีการเชื่อมโยงลดลงเรื่อยๆ ก็จะทำให้มีความยากลำบากในการใช้งานมากยิ่งขึ้นไป
**ซึ่งถ้าผู้ใดสนใจที่จะศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ระบบการคิดแบบเร็ว และช้า(Fast and Slow systems) สามารถที่จะอ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือ “Thinking, Fast and Slow” ของ Daniel Kahneman ผู้ได้รับรางวัลโนเบลปี 2002 สาขา  Nobel Memorial Prize in Economic Sciences
woman-3169680_1920.jpg
นั่นก็คือ Social medias ที่มีปริมาณข้อมูลมากมหาศาล(IOKO) ที่ผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีการเชื่อมโยงสมองในส่วนของความเชื่อ และอารมณ์(Fast system) เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่การใช้เหตุผลลดลง สมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับหลักการ และเหตุผล(Slow system) ก็มีการเชื่อมโยงที่ลดลงไปเรื่อยๆ สุดท้าย ก็จะส่งผลให้สังคมเรามีแต่เด็ก ที่ใช้แต่ความเชื่อ และอารมณ์ มากกว่าการใช้หลักการ และเหตุผลในที่สุด
ถ้าเรายังปล่อยไปแบบนี้ สุดท้าย เด็กเหล่านี้ก็จะคิดเองไม่เป็น เชื่อแต่การชี้นำของสังคม และคนรอบข้างเป็นหลัก ไม่สามารถที่จะคิดอะไรที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ได้เลย(Innovation) และพวกเค้าเหล่านั้น ก็จะต้องแพ้ต่อเทคโนโลยีที่มีแต่จะก้าวหน้าขึ้นอย่างก้าวกระโดดในแต่ละปี ไม่ว่าจะเป็นในเรื่อง ปัญญาประดิษฐ์(AI) และการค้นหาข้อมูลอันมหาศาลจากการ Googling ได้ในเสี้ยววินาที แต่พวกเค้ากลับไม่รู้ว่า ข้อมูลไหน จริง เท็จ หรือมีประโยชน์อะไรหรือไม่

question-mark-2492009_1920 (1).jpg

ทางออก(หลักการ)
  1. สร้างกระบวนการกระตุกการทำงานของสมองส่วนหน้า(Prefrontal cortex) เพื่อสร้างการเชื่อมโยงใหม่ๆ(Rewiring) ของสมองส่วนที่คิดอย่างมีหลักการ และเหตุผล(Slow system) เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากขึ้น
  2. สร้างกระบวนการค้นหาความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ(Innovative Creativity) อยู่ตลอดเวลา เพื่อการพัฒนาตัวตนให้ดียิ่งขึ้น
  3. สร้างกระบวนการในการเสริมสร้างสติ(Mindfulness) ให้เกิดขึ้น
  4. ทำกระบวนการตามข้อ 1 2 และ 3 อย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็น ทักษะ(Skill)
เมื่อเราสามารถที่จะสอน และฝึกลูกเราตามหลักการข้างต้นได้จนเป็นนิสัยของเค้าแล้ว กระบวนการต่างๆจะเกิดขึ้นอย่างเป็นอัตโนมัติ(Autopilot) และเมื่อมองเข้าไปในสมองของพวกเค้า เราก็จะพบว่า ได้มีการเชื่อมโยงใหม่ๆ(Rewiring) ของสมองส่วนที่คิดอย่างเป็นหลักการ และเหตุผลเกิดเพิ่มขึ้นมาอย่างมากมายแล้วนั่นเอง
ในครั้งหน้า ผมจะมาลงในรายละเอียดของการทำตามขั้นตอนของหลักการข้างต้น ซึ่งเมื่อได้ทราบแล้ว ทุกท่านสามารถที่จะนำไปปรับให้เข้ากับความชอบ ความถนัด ของตัวท่าน และลูกท่านได้ และผมเชื่อเหลือเกินว่า ถ้าได้ทำอย่างต่อเนื่อง มีวินัย จริงจัง ทุกๆท่าน จะได้เห็นผลลัพธ์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ในการพัฒนาศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวลูกหลานของท่านให้เปล่งประกายออกมาอย่างที่ท่านเอง ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นมาได้ครับ
* https://blogs.scientificamerican.com/guest-blog/the-creativity-of-dual-process-system-1-thinking/
** https://en.wikipedia.org/wiki/Daniel_Kahneman
คิดปรับมุม BrainChef
DoctorT Neuro
ดอกเตอร์ทีนิวโร

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s