Self-affirmation เคล็ดลับความสำเร็จที่คนดังหลายคนอาจจะไม่ได้บอกคุณ (The neuroscience behind Self-affirmation technics to success)

กี่ครั้งแล้ว ที่คุณรู้สึกดีเมื่อได้อ่านประวัติของคนดัง ที่ประสบความสำเร็จ ว่าเค้าเหล่านั้นก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆนานามาได้อย่างไร
คุณรู้สึกอิ่มเอิบทุกครั้งที่ได้รู้เรื่องราวเหล่านี้ ไฟในตัวลุกโชน จนอยากที่จะเดินตามรอยทางดังกล่าว
คุณมองเห็นโอกาสของความสำเร็จอยู่เบื้องหน้า แต่แล้ว ทันใดนั้น ภายในใจลึกๆกลับมีเสียงเล็กๆที่พูดแทรกเข้ามาทันทีว่า “มันคงไม่ใช่สำหรับฉันหรอก”
เสียงเล็กๆที่กำลังเพิ่มแรงต่อต้าน(Defensiveness) และลดการเปิดประตูรับ(Receptivity) ต่อความสำเร็จของตัวคุณเองในอนาคต
มันเป็นธรรมชาติของสมองมนุษย์ที่ถูกฝังมาอย่างยาวนาน
เรามักจะกลัวการเปลี่ยนแปลง แม้แต่มันจะเป็นโอกาสในอนาคต
และเราสร้างร่องรอย(Footprint) นี้ มาอย่างยาวนาน ถูกส่งต่อกันมา จากรุ่นปู่ ย่า พ่อ แม่ และเราใช้มันได้อย่างคล่องแคล่ว
ทั้งๆทีในหลายครั้ง เราแทบจะไม่ได้สูญเสียอะไรเลย กับการลองก้าวเดินไปในหนทางนั้น
แล้วเราจะมีหนทางในการปลดล็อคตัวเองจากพันธนาการภายในสมองดึกดำบรรพ์ของเราได้หรือไม่
อ่านเพิ่มเติม “Self-affirmation เคล็ดลับความสำเร็จที่คนดังหลายคนอาจจะไม่ได้บอกคุณ (The neuroscience behind Self-affirmation technics to success)”

5 หลักการอันทรงพลังที่จะทำให้ลูกของคุณเป็นเด็กที่ชอบความท้าทาย และมีความสุขในการทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ

5 หลักการอันทรงพลังที่จะทำให้ลูกของคุณเป็นเด็กที่ชอบความท้าทาย และมีความสุขในการทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ

“Having a “fixed mindset” as the name implies, increases the limitations you have in your life.”

“การมีกรอบความคิดแบบตายตัว(fixed mindset) คือการเพิ่มข้อจำกัดของทุกอย่างในชีวิตของลูกคุณ”

อ่านเพิ่มเติม “5 หลักการอันทรงพลังที่จะทำให้ลูกของคุณเป็นเด็กที่ชอบความท้าทาย และมีความสุขในการทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ”

Self-esteem(ตอนที่ 3) ดาบสองคมที่ปิดกั้นศักยภาพที่แท้จริงของลูกคุณ???

“ทำอย่างไรให้ลูกของคุณเป็นเด็กที่ชอบความท้าทาย และมีความสุขในการทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ Fixed mindset  ปรับเปลี่ยนได้หรือไม่”
“Intelligence is something you have to work for … it isn’t just given to you.”
 

อ่านเพิ่มเติม “Self-esteem(ตอนที่ 3) ดาบสองคมที่ปิดกั้นศักยภาพที่แท้จริงของลูกคุณ???”

Self-esteem(ตอนที่ 2) ดาบสองคมที่ปิดกั้นศักยภาพที่แท้จริงของลูกคุณ???

“มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียว ที่จำกัดการเติบโตในศักยภาพของตนเอง”
ลองนึกตามดูนะครับ ต้นไม้ไม่เคยบอกตัวเองว่า ฉันโตได้แค่นี้ ฉันจะไม่โตไปได้มากกว่านี้แล้ว สัตว์ต่างๆ จะพยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ ไม่มีสัตว์ตัวไหนพูดกับตัวเองก่อนเลยว่า ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก
มนุษย์เรา กอดติดกับความภาคภูมิใจในตนเอง(Self-esteem) จนเอาความสำเร็จในอดีต มาจำกัดความสามารถในการเติบโตของตัวเอง
และนั่นก็คือการที่เรากำลังสร้าง กรอบความคิดแบบตายตัว(Fixed mindset) ที่เป็นความเชื่อพื้นฐานเกี่ยวกับตัวเรา ฝังติดมากับตัวเรา กับลูกหลานของเรา จนกระทั่งเราคิดไปว่า นั่นคือ บุคลิกภาพ และศักยภาพที่แท้จริงของเราแล้ว
Fixed mindset คือกรอบความเชื่อ(Belief) อันมีลักษณะที่ว่า “บุคลิกภาพ(Character) ความฉลาด(Intelligence) และความคิดสร้างสรรค์(Creativity) ของคนๆหนึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ตายตัว ปรับเปลี่ยนไม่ได้”
ในทางตรงกันข้าม กรอบความคิดแบบเติบโต(Growth mindset) เป็นกรอบของความเชื่อที่ว่า “บุคลิกภาพ(Character) ความฉลาด(Intelligence) และความคิดสร้างสรรค์(Creativity) ของคนๆหนึ่งนั้นเป็นสิ่งที่เติบโตได้ ปรับเปลี่ยนได้”
เด็กที่มีกรอบความคิดแบบ Growth mindset จะมองความล้มเหลวว่าเป็นเสมือนสปริงบอร์ดที่จะทำให้พวกเค้าก้าวกระโดดไปสู่การเติบโตที่ดีขึ้น เด็กเหล่านี้จะมองทุกอย่างเป็นสิ่งที่ท้าทาย น่าทดลอง เค้าไม่ได้มองว่า การที่พวกเค้าจะลงมือกระทำอะไรสักอย่าง แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะต้องเป็นความสำเร็จ(Success) เท่านั้น แต่พวกเค้ามองถึงผลลัพธ์แค่ว่า พวกเค้า ดีขึ้น เก่งขึ้นกว่าก่อนทำหรือไม่(Better) ไม่ใช่ว่า เค้าจะต้องเก่งที่สุด(Best)
ในระหว่างการเติบโตขึ้นมาของเด็กทุกคน จะถูกหล่อหลอมให้เกิดการสร้างกรอบของความคิด(Mindset) เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น แบบตายตัว(Fixed mindset) หรือ แบบเติบโต(Growth mindset) ซึ่งกรอบความคิดเหล่านี้จะส่งผลต่อพฤติกรรม ความคิด บุคลิกภาพ ศักยภาพทั้งในด้านการเรียน การทำงาน และความสัมพันธ์กับคนรอบตัว และสุดท้ายก็จะส่งผลต่อความสุขในชีวิตของพวกเค้าในที่สุด
MindSet
Screen Shot 2561-03-03 at 8.56.22 AM
คลิกที่นี่เพื่อรับชมคลิปของ ดร. Carol Dweck นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่พูดเกี่ยวกับ Mindset ทั้งสองแบบไว้ เป็นคลิปสั้นๆที่น่าสนใจมากนะครับ
แล้วเราจะสามารถที่จะปรับเปลี่ยนกรอบความคิดแบบตายตัวของผู้ใหญ่ ให้มาเป็นแบบเติบโตได้หรือไม่???
ไม้แก่ดัดยาก…จะจริงหรือไม่???
แล้วสำหรับลูกหลานของเรา เราจะปลูกฝังกรอบความคิดแบบเติบโตให้พวกเค้าได้อย่างไร
ครั้งหน้าผมจะมาเล่าถึงวิธีการเหล่านั้น รวมไปถึงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันถึงวิธีการเหล่านั้นนะครับ
อ่านเพิ่มเติม “Self-esteem(ตอนที่ 2) ดาบสองคมที่ปิดกั้นศักยภาพที่แท้จริงของลูกคุณ???”

Self-esteem(ตอนที่ 1) ดาบสองคมที่ปิดกั้นศักยภาพที่แท้จริงของลูกคุณ???

“เราเคยแปลกใจกันบ้างไหมว่า ทำไมเพื่อนสมัยเรียนที่ดูเหมือนจะเป็นคนที่เรียนธรรมดามาก แต่เมื่อจบออกมาทำงาน กลับทำงานได้ดี และก้าวหน้ากว่าเพื่อนที่เรียนเก่งมากๆในรุ่นเสียอีก”
 self esteem
และเราก็ถูกสอนกันมาตลอดในการสร้างความภาคภูมิใจในตัวเอง(Self-esteem)ใหักับลูกหลานของเรา 
เราเชื่อกันมาตลอดว่า Self-esteem เป็นสิ่งที่ลูกหลานของเราต้องมี 
แล้วเราเคยตั้งคำถามง่ายๆกับตัวเองบ้างหรือไม่ว่า “สิ่งที่เราเชื่อเกี่ยวกับ Self-esteem นั้น ถูกต้องทุกอย่างหรือไม่???”
ผมไม่ได้บอกว่า Self-esteem เป็นสิ่งที่ผิด เพียงแต่กำลังจะบอกว่า ถ้าเราไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีพอในระดับหนึ่ง Self-esteem อาจจะกลายเป็นดาบสองคมที่ปิดกั้นศักยภาพที่แท้จริงของลูกคุณได้!!!
คุณเคยรู้สึกไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ เพียงเพราะกลัวจะถูกมองว่า ไม่ฉลาด บ้างไหม
คุณเคยรู้สึกกังวลว่า ถ้าคุณตอบคำถาม ในสิ่งที่คุณยังไม่รู้ ยังไม่แน่ใจ แต่คุณคิดว่าได้หาเหตุผลรอบคอบแล้ว แต่สุดท้าย ในเสี้ยววินาทีท้ายสุด คุณก็เลือกที่จะทำตัวเงียบ กลมกลืนไปกับคนอื่นๆรอบๆตัวคุณ เพียงเพราะคุณกลัวจะตอบผิด แล้วรู้สึกว่าเป็นคนโง่ในสายตาคนรอบข้างบ้างหรือไม่
คุณรู้สึกปลอดโปร่ง สบายใจที่จะทำตัวอยู่ใน กรอบของ Comfort zone ที่คุณเชี่ยวชาญในสิ่งที่คุณเคยประสบความสำเร็จใน อดีต (เช่น คุณภาคภูมิใจในความสำเร็จในการเรียนที่เป็นที่ 1 ของโรงเรียนในระดับมัธยม แต่เมื่อเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย คุณกลับไม่กล้าที่จะทำสิ่งใหม่ๆที่คุณไม่เคยทำ) และไม่กล้าที่จะก้าวออกนอก Comfort zone บ้างหรือไม่
ทั้งหมดนั้น ก็คือ ด้านมืดของ Self-esteem ที่คุณอาจจะไม่เคยนึกถึง
 carol-dweck-604x238
กว่า 20 ปี ที่ ดร. Carol Dweck นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาวิจัยถึงปัจจัยที่ทำให้เด็กกลุ่มหนึ่งสามารถที่จะเติบโตขึ้นมาประสบความสำเร็จว่า แตกต่างจากเด็กที่เติบโตมาแล้วไม่ประสบความสำเร็จอย่างไรบ้าง
ดร. Carol ได้ค้นพบว่า ปัจจัยสำคัญในกลุ่มเด็กที่ไม่ประสบความสำเร็จนั้นก็คือ ความเชื่อ(Belief) ของเด็กในกลุ่มนี้ มีลักษณะที่ว่า “บุคลิกภาพ(Character) ความฉลาด(Intelligence) และความคิดสร้างสรรค์(Creativity) ของคนๆหนึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ตายตัว ปรับเปลี่ยนไม่ได้”
เด็กกลุ่มนี้จะยึดติดกับ ความภาคภูมิใจ(Self-esteem) ในอดีตของตนเอง เช่น เคยเป็นคนเรียนเก่ง เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ใหม่ๆ ที่ตัวเองไม่ชำนาญ จะทำให้เด็กกลุ่มนี้ไม่กล้าที่จะลองผิดลองถูก กลัวที่จะผิดพลาด กลัวความล้มเหลว 
เด็กกลุ่มนี้เมื่อจะทำอะไร ต้องทำเพื่อการพิสูจน์(Prove) ว่า ตัวเค้ายังเป็นคนเก่ง คนสำเร็จ เท่านั้น ถ้าไม่มั่นใจว่า การกระทำนั้นๆ จะให้ผลลัพธ์ในความเชื่อดังกล่าว เค้าก็จะไม่ก้าวออกมานอกกลุ่มชนโดยเด็ดขาด
เด็กกลุ่มนี้จะมีลักษณะที่กระหายความสำเร็จ(Success) และทนไม่ได้ที่จะล้มเหลว(Failure) 
เด็กกลุ่มนี้จะทำทุกอย่างเพียงเพื่อพิสูจน์ว่า เค้ายังฉลาด เท่านั้น
ดร. Carol เรียกลักษณะกรอบความคิดที่มีผลต่อพฤติกรรม(Mindset) แบบนี้ว่า Fixed Mindset
โดยสรุปก็คือ Self-esteem ที่ใช้ไม่ถูกวิธี กลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้เกิด Fixed Mindset และมีผลในการปิดกั้นศักยภาพที่แท้จริงของลูกของคุณได้
แล้วทางออกของปัญหาเหล่านี้มีหรือไม่ คืออะไร 
จะมาเล่าให้ฟังในตอนต่อไปนะครับ
อ่านเพิ่มเติม “Self-esteem(ตอนที่ 1) ดาบสองคมที่ปิดกั้นศักยภาพที่แท้จริงของลูกคุณ???”